น้ำชีวภาพบำรุงพืชฝาเขียว : อาหารจานด่วนสำหรับพืช

Message Body:
น้ำชีวภาพบำรุงพืชฝาเขียว : อาหารจานด่วนสำหรับพืช

คุณสมบัติ :
-เป็นยอดอาหารเสริมพืชชีวภาพเข้มข้น ใช้ฉีดพ่นทางใบยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นดูดซึมเข้าในเซลล์พืชได้อย่างรวดเร็ว เป็นอาหารอะมิโนโปรตีนให้แก่พืช ผลิตจากอาหารโปรตีนสูง โดยผ่านขบวนการหมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อพืชและดินหลายชนิด เป็นผลิตภัณฑ์การเกษตรยุคใหม่ ใช้ได้ทุกฤดูกาล เหมาะกับพืชทุกชนิด ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ปลอดสารพิษ ชีวิตยืนยาว

ส่วนประกอบ :
– กรดฮิวมิคหรือสารปรับสภาพดิน มีแร่ธาตุสารอาหารสำคัญสำหรับพืช และ อื่นๆอีกมากมาย
-ฮอร์โมนพืช เช่น ออกซิน,ไซโตไคนิน,จิบเบอเรลลิน
-เอนไซม์และสารชีวนะ กำจัดเชื้อโรคจากขบวนการหมัก
-จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อพืชและดินหลายชนิด -และส่วนผสมอื่นๆที่มีประโยชน์และสาระสำคัญอีกมาก

ฝาเขียวมีคุณประโยชน์มากมาย:
1.เพิ่มการสังเคราะห์แสง สะสมอาหาร เร่งการเจริญ เร่งแตกใบอ่อน  เร่งการติดดอกติดผล เร่งการเลื้อยของเถา และเก็บเกี่ยวได้นานขึ้น
2.ช่วยผสมเกสร ป้องกันดอกผลร่วง เพิ่มขนาดผล เพิ่มผลผลิต ผลผลิตมีคุณภาพ รสชาติดี กรอบอร่อย เก็บไว้ได้นาน
3.ช่วยย่นระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตให้เร็วขึ้น
4.ฉีดพ่นก่อนเก็บ 3 วัน ผลผลิตเหี่ยวช้าลง ไม่เสียน้ำหนักช่วงขนส่ง
5.พืชเติบโตแข็งแรง ลดค่าใช้จ่ายยาฆ่าแมลง สารเคมีกำจัดเชื้อโรค สุขภาพชีวิตดีขึ้น

ฝาเขียวช่วยได้อีกหลายด้าน :
1.ช่วยฟื้นฟูสภาพต้นทรุดโทรม เร่งดูดซึมปุ๋ย,ธาตุอาหารมากขึ้น พืชสมบูรณ์แข็งแรง ทนแล้ง ทนทานต่อโรคและแมลง
2.เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้แก่ดิน ปรับสร้างความสมดุลย์ ผลิตสารชีวนะ ยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียที่ก่อให้โรค หลายชนิด
3.การฉีดพ่นเป็นประจำ ลดการฟักตัวของหนอน ลดการระบาดและ ควบคุมหนอนชอนใบ หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ
4.การใช้ในนาข้าว ช่วยลดการเข้าทำลายของเพลี้ยกระโดด, เพลี้ยจั๊กจั่น  ต้นข้าวแข็งแรง ใบตั้งชัน แตกกอดี รวงข้าวมีน้ำหนักมากขึ้น ป้องกันเมล็ดร่วง เมล็ดลีบ ใช้ฉีด 4ครั้ง=ฉีดครั้งที่1:หลังปักดำหรือหว่านเมล็ดข้าวแล้ว1สัปดาห์(10ซีซี+น้ำ20ลิตร),ฉีดครั้งที่2:ช่วงระยะข้าวเริ่มแตกกอ(ใช้20-30ซีซี+น้ำ20ลิตร),ฉีดครั้งที่3:ช่วงข้าวเริ่มตั้งท้องเพิ่มน้ำหนักเร่งสะสมแป้ง(ใช้30-60ซีซี+น้ำ20ลิตร),ฉีดครั้งที่4:ช่วงข้าวออกรวงแล้ว ฉีดก่อนเก็บเกี่ยว2สัปดาห์ เพื่อเพิ่มน้ำหนักเพิ่มน้ำตาล(ใช้30-60ซีซี+น้ำ20ลิตร)
* ไม่ควรนำผสมใช้สารสกัดชีวภาพฝาน้ำเงิน จะทำให้คุณภาพลดลง
5.พืชมีลำต้นสูงๆ เช่นยาง มะพร้าว ใช้ฝาเขียวผสมน้ำราดลงที่ดิน ราดรอบโคนกว้างจนถึงปลายทรงพุ่ม ใช้อัตรา 30ซีซี.ต่อน้ำ 20ลิตร ราดต้นละ 5ลิตร หากเป็นต้นพืชที่ไม่สูง ให้ฉีดพ่นทางใบจะดีกว่า เช่น มะม่วง ส้ม ลองกอง ลำใย ทุเรียน
6.ในกรณีต้นยาง อัตราผสมฝาเขียว 30ซีซี.ต่อน้ำ 20ลิตร ควรราดต้นละ 2-3 ลิตรไม่จำเป็นต้องฉีดต้น(น้ำที่ผสมฝาเขียวในปริมาณ1ลิตร พืชจะได้สารจากฝาเขียว1.5ซีซี.)
7.ในกรณีที่พืชผลเพิ่งออกดอกติดลูกเล็กๆหากนำฝาเขียวมาฉีดพ่นที่ใบจนชุ่มโชก พืชอาจจะหยุดเลี้ยงลูกแล้วหันมากระตุ้นแตกใบอ่อน จะทำให้พืชสลัดลูกร่วง ในช่วงนี้ จึงควรใช้ฝาเขียวราดโคนต้นจะดีกว่าฉีดพ่นทางใบแต่สำหรับพืชล้มลุกฉีดพ่นได้ตลอด
8.ในกรณีเรือนเพาะชำให้ใช้ฝาเขียวพ่นบ่อยๆ เนื่องจากดินชื้น จุลินทรีย์จะเจริญได้ดี จะได้ประโยชน์ถึงราก ทำให้พืชเขียวสดขึ้นมา ในฝาเขียวมีจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อโรคด้วย

อัตราการผสมและระยะเวลาความถี่ในการฉีดพ่น(ตามตารางแนบ)
**หรือวิธีการใช้โดยง่าย : อัตราผสมกับน้ำสะอาด
อัตรา 10 ซีซี.ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นในช่วงที่พืชยังเล็ก ระยะกล้า หลังปลูก
อัตรา 20 ซีซี.ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นในช่วงระยะที่พืชเจริญเติบโต ออกดอก
อัตรา 30 ซีซี.ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นในช่วงระยะเร่งดอก ติดฝัก ติดผล ลงหัว

ระยะเวลาความถี่ในการฉีดพ่น(แนะนำให้ฉีดพ่นยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น จะได้ผล ดีกว่าเวลาอื่น)
-พืชไม้ผล ฉีดพ่น 7-10วัน/ครั้ง
-พืชไร่ ฉีดพ่น 7-10วัน/ครั้ง
-พืชผักสวนครัว ฉีดพ่น 3-5วัน/ครั้ง(พืชระยะสั้นหากฉีดบ่อยและผสมเยอะ ยิ่งดี)
-พืชไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ฉีดพ่น 5-7วัน/ครั้ง
หมายเหตุ : ฝาเขียวนำผสมใช้กับน้ำจุลินทรีย์ฉีดพ่นได้ แต่ห้ามผสมกับใช้ฝาน้ำเงิน

การแก้ปัญหาปลูกทุเรียน มีใบเหลือง มีโรคราทั้งทางใบและทางดิน(แนะนำให้ใช้สูตรสำเร็จโดยการใช้ฝาน้ำเงิน, ฝาเขียว และ ผงจุลินทรีย์ชีวภาพร่วมกัน)
ข้อ1.เริ่มต้นใช้ฝาน้ำเงินก่อน ผสม100ซีซี.ต่อน้ำ20ลิตร+สารจับใบ 3-5ซีซี.หากน้ำเป็นด่างมากให้นำน้ำส้มสายชูที่มีความเข้มข้นสูง 95-99%มาผสมน้ำก่อน(ใช้อัตรา 40-50ซีซี.ต่อน้ำ20ลิตร) เพื่อปรับสภาพน้ำที่เป็นด่างมากให้เป็นด่างน้อย จากนั้นจึงผสมน้ำฝาน้ำเงินตามลำดับ อย่านำมาผสมผิดลำดับขั้นตอนกัน จะทำให้ไม่ได้คุณภาพตามต้องการ โดยนำมาฉีดพ่นที่ใบทรงพุ่มช่วงกลางวัน1ครั้งและอาจฉีดซ้ำอีก1วัน
แต่หากพบต้นพืชมีปัญหาเชื้อโรคระบาดรุนแรง ให้นำน้ำเดียวกันที่ผสมแล้วนั้นมาเทราดที่โคนพืชและวงรอบรัศมีไปถึงปลายรากใต้ทรงพุ่ม ประมาณ 10-20 ลิตรตามขนาดต้นพืช ทั้งนี้เพื่อให้หยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่กำลังทำลายรากโดยเร็ว รวมทั้งนำไปฉีดพ่นที่ใบและทรงพุ่มไปพร้อมกัน)
ข้อ2.ผ่านไป2วัน ให้นำน้ำที่แช่ผงจุลินทรีย์1คืน(อัตราผสม 100กรัมหรือ 1ซอง+น้ำ200ลิตร) ผสมฝาเขียว 300ซีซี.(ในกรณีต้องการใช้น้ำเพียง20ลิตร ให้นำผงจุลินทรีย์10กรัม แช่1คืน และ ผสมฝาเขียวเพียง 30ซีซี.) มาราดลงดินรอบรัศมีโคนต้น โดยดินต้องชื้นก่อนราด ต้นเล็ก/กลาง/ใหญ่ นำแบ่งราดที่ต้นเล็ก ขนาดทรงพุ่ม 1×1 ตรม. ประมาณ 5 ลิตร/ต้น, ราดที่ต้นขนาดกลาง ทรงพุ่ม 2×2 ตรม. ประมาณ 10ลิตร/ต้น และ ราดที่ต้นขนาดใหญ่ ทรงพุ่ม 4×4 ตรม. ประมาณ 20ลิตร/ต้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ตัวดีลงไปในดินทดแทนจุลินทรีย์เดิมหรือก่อนหน้าซึ่งอาจโดนฤทธิ์ฝาน้ำเงินทำลายไปก่อนหน้า
ข้อ3.จากนั้นให้ฉีดพ่นน้ำฝาเขียวอย่างมีวินัยสม่ำเสมอ ในอัตราผสม 30ซีซี.+น้ำ20ลิตร โดยฉีดพ่นทุก7-10วัน/ครั้ง(ฉีดพ่นตามใบทรงพุ่มยามเช้าก่อนแดดจะออกมา จะได้ประสิทธิภาพสูงสุด หากต้นพืชสูงไม่สามารถฉีดพ่นให้ถึงใบได้ แนะนำให้นำมาเทราดที่ราดรอบโคนต้นพืชแทนก็ได้)
4.เคล็ดลับหรือสูตรสำเร็จนี้ ใช้ได้กับการแก้ปัญหาต้นทุเรียนและไม้ผลทุกชนิดที่มีอาการโคม่า มีอัตรารอดน้อย หรือมีอาการรอดไม่รอด 50:50 โดยที่ผ่านมาพบว่ามีตัวอย่างจากเกษตรหลายพื้นที่ประทับใจและสามารถแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้